ชิปปิ้ง ที่สุดของเทคโนโลยีปี 2020 ที่ผู้ประกอบการขนส่งต้องรู้

ชิปปิ้ง ที่สุดของเทคโนโลยีปี2020 ที่ผู้ประกอบการขนส่งต้องรู้-Bullogistics ชิปปิ้ง ชิปปิ้ง ที่สุดของเทคโนโลยีปี 2020 ที่ผู้ประกอบการขนส่งต้องรู้                                                             2020                                                                                   Bullogistics 768x402

ชิปปิ้ง ในปีนี้ อุตสาหกรรมการขนส่งหรือโลจิสติกส์ดูเหมือนจะสดใส ด้วยการนำเอาเทคโนโลยีอันชาญฉลาดมาใช้

หลายบริษัทจำเป็นต้องรักษาความสามารถในการแข่งขันและต้องเพิ่มเทคโนโลยีขั้นสูง เพื่อปรับปรุงการให้บริการ ไม่ว่าจะเป็นด้านกระจายสินค้า คลังสินค้า และการจัดส่งให้ดียิ่งขึ้น

 Bull Logitics รวบรวมเทรนด์ทางด้านเทคโนโลยีที่สำคัญและส่งผลต่อโลจิสติกส์ 5 สิ่งที่ผู้ประกอบการควรรู้ ได้แก่

1. Blockchain

     เป็นเทคโนโลยีที่สามารถดำเนินงานทางธุรกิจ บันทึกการทำธุรกรรมโดยไม่ผ่านบุคคลที่สาม การติดตามสินทรัพย์และสร้างระบบที่โปร่งใส รวมทั้งจัดการเอกสารทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการโลจิสติกส์อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ Blockchain เป็นเครื่องมือที่มีต้นกำเนิดมาจากสาขาคณิตศาสตร์ เรียกว่า การเข้ารหัสตรวจสอบประวัติของผู้ให้บริการและซัพพลายเออร์รายอื่นๆ ช่วยประหยัดเวลาและเงินได้อย่างมหาศาล และยังเพิ่มความปลอดภัยในห่วงโซ่อุปทาน ลดการทุจริต กระบวนการคอขวดที่เป็นกระบวนการที่จำกัดผลผลิตของทั้งระบบและข้อผิดพลาดต่างๆ ได้อีกด้วย

2.Internet of Things หรือ IoT

     คือการที่อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ สามารถเชื่อมโยงข้อมูลได้ด้วยอินเตอร์เน็ต โดยไม่ต้องป้อนข้อมูล สามารถสั่งการและควบคุมการใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ผ่านอินเตอร์เน็ตได้ จนเกิดเป็นบรรดา Smart ต่างๆ ได้แก่ Smart Device, Smart Grid, Smart Home, Smart Network, Smart Intelligent Transportation

     ในด้านการขนส่ง เทคโนโลยีนี้ทำให้รถบรรทุกสามารถเปิดใช้งานเกี่ยวกับการขับขี่ แผนที่และวีดีโอได้แบบเรียลไทม์ Smart vehicles จะช่วยให้สามารถมองเห็นโค้งในระยะที่มองไม่เห็นและสามารถระบุระยะของคนเดินเท้า คนปั่นจักรยานและอันตรายบนท้องถนนอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น

– การปฏิวัติการขนส่งและลดการเฉี่ยวชนได้อย่างมีนัยสำคัญถึง 80% และแสดงผลผ่านเครือข่ายการผลิตทั่วโลก

    – สามารถตรวจสอบประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิง เบรก ความเร็วและแสดงความปลอดภัยต่อผู้ขับขี่ รวมทั้งระบบ Geo-Fence ที่สามารถกำหนดขอบเขตพื้นที่ไว้บนแผนที่และจะได้รับการแจ้งเตือนเมื่อสิ่งที่ถูกติดตามเข้าไปหรือออกจากขอบเขตที่กำหนด

     – ได้รับเงินลงทุนจากนักลงทุนที่สำคัญ เช่น AT&T, Alcatel-Lucent, IBM, Verizon, Cisco Systems และระบบไฟฟ้าทั่วไป ที่เป็นผู้สนับสนุนที่สำคัญในการพัฒนาเทคโนโลยีนี้ให้ในระบบการขนส่ง

      นอกจากนี้ Internet of Things คาดว่าจะเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมการขนส่ง โดยการรวบรวมข้อมูลและข้อมูลสำคัญจากแนวโน้มของธุรกิจและเทคโนโลยี ซึ่งสัมพันธ์กับการวิเคราะห์ข้อมูลและการสื่อสารไร้สายอัตโนมัติ จึงทำให้การสื่อสารถูกปรับปรุงให้ดีขึ้นและมีความเข้าใจในการกระจายข้อมูลโดยรถไฟ รถบรรทุก เรือและเครื่องบินได้ดียิ่งขึ้น

3.ปัญญาประดิษฐ์ AI

       AI ช่วยเพิ่มความปลอดภัยของผู้โดยสารลดความแออัดของการจราจรและอุบัติเหตุลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และลดค่าใช้จ่ายทางการเงินโดยรวม ได้แก่

     – การจัดการจราจร

     – กำหนดสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นอันตราย

     – ออกแบบหรือประเมินความสมบูรณ์ของโครงสร้าง

     – การวางแผนกิจกรรมการก่อสร้าง

     – การบำรุงรักษาตามกำหนดการ

     ประเภทของ AI ที่ใช้ในการขนส่ง

     – ระบบฐานความรู้ (Knowledge-based System : KBS) ที่เป็นความรู้บนพื้นฐานของการอนุมาน เช่น ระบบผู้เชี่ยวชาญ ระบบการอนุมานเพื่อนำไปสู่การให้เหตุผลและแก้ปัญหา

     – Neural Networks (NN) หรือระบบของเซลล์ประสาทเทียมที่มีคุณสมบัติรองรับการแก้ปัญหาที่ยากและซับซ้อนได้เหมือนสมองของมนุษย์ เช่น Backpropagation หรือ กระบวนการเรียนรู้ (Learning)

     – Fuzzy Systems (FS) เป็นวิธีการออกแบบให้คอมพิวเตอร์สามารถใช้เหตุผลที่คล้ายคลึงกับวิธีการให้เหตุผลของมนุษย์ สำหรับประกอบการตัดสินใจที่ไม่ใช่ YES กับ NO

     – Genetic Algorithms (GA) ขั้นตอนการสร้างประชากรต้นแบบด้วยกระบวนการทางพันธุกรรมหรือวิธีการสุ่มและการทดสอบเพื่อกำหนดวิธีการแก้ปัญหาที่เหมาะสมที่สุด

     – Agent-based Methods (ABM) วิธีการใหม่ในการสร้างแบบจำลองระบบที่ซับซ้อน ด้วยส่วนที่มีปฏิสัมพันธ์กันของสองสิ่ง ซึ่งดูเหมือนว่าจะเหมาะสมกับปัญหาการขนส่งได้เป็นอย่างดี

4.Machine Learning/Big Data

     Big Data ในด้านโลจิสติกส์ สามารถใช้ในการปรับเส้นทางที่เหมาะสม ปรับปรุงฟังก์ชั่นของโรงงาน สร้างความโปร่งใสในห่วงโซ่อุปทานทั้งหมดและสร้างผลประโยชน์ให้กับบริษัทโลจิสติกส์และชิปปิ้ง นอกจากนี้ ด้านการจัดการโลจิสติกส์และการขนส่ง ยังมีระดับความน่าเชื่อถือที่สูงขึ้นด้วย Big Data รวมทั้งด้านการส่งมอบสินค้าและข้อมูลที่สำคัญของการบริการที่สามารถค้นหาได้ง่ายแค่ปลายนิ้วแบบเรียลไทม์ มีการปรับปรุงกระบวนการทำงานและมีความโปร่งใสมากขึ้น

5.เทคโนโลยีเทเลเมติกส์ (Telematics)

      เทคโนโลยีเทเลเมติกส์ เป็นเทคโนโลยีอัจฉริยะด้านความปลอดภัยในรถยนต์ ที่ถูกนำมาใช้ผสมผสานกับ IoT เพื่อเพิ่มความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สิน ตลอดจนการบำรุงรักษายานยนต์ชะลอความสึกหรอของเครื่องยนต์ ถือเป็นโซลูชันใหม่ที่ทำหน้าที่เก็บรวมรวบ และเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างรถยนต์และผู้ใช้รถให้เป็นหนึ่งเดียวผ่านเทคโนโลยี IoT โดยการเชื่อมต่อและผสมผสานอุปกรณ์หลายชนิดเข้าด้วยกัน ผ่านการสื่อสารบนอินเทอร์เน็ตและส่งข้อมูลมารวบรวมไว้ยัง Cloud Server หลักการของทำงาน เป็นการแจ้งเตือนให้ผู้ขับรถทราบความเสี่ยงอันตรายในขณะขับรถ สามารถตรวจสอบเมื่อคนขับหลับตาหรืองีบหลับ ไม่มองถนน มือไม่จับพวงมาลัย สมองไม่มีสติในการควบคุมรถ เพื่อเพิ่มความระมัดระวังหรือเปลี่ยนพฤติกรรมได้ทันเวลา

6.เทคโนโลยีการขนส่งอัตโนมัติ

      โดรนและรถบรรทุกที่ขับเคลื่อนโดยอัตโนมัติ เริ่มเป็นเรื่องปกติที่เป็นผลดีต่อความปลอดภัยและการจราจรบนท้องถนน ตามที่กระทรวงคมนาคมของสหรัฐอเมริการะบุว่า 94% ของอุบัติเหตุทางจราจรเป็นการความผิดพลาดของคนขับ แต่ต่อไปนี้การใช้เทคโนโลยีการขนส่งอัตโนมัติจะไม่มีข้อผิดพลาดแบบมนุษย์อีกต่อไปและยังช่วยลดต้นทุนได้อย่างมีนัยสำคัญ รวมทั้งยังเพิ่มประสิทธิภาพด้วยการส่งมอบสินค้าแบบไม่ใช้คนขับ เช่น

      -รถยกแบบอัตโนมัติและแขนหุ่นยนต์ ที่ใช้ในคลังสินค้าอย่างทันสมัย สามารถโหลด ขนถ่าย ขนส่งสินค้าภายในคลังสินค้า รวมทั้งมีสายพานลำเลียงที่ยืดหยุ่นได้อีกด้วย

      -เซ็นเซอร์การมองเห็นและเทคโนโลยีการนำทางทางภูมิศาสตร์ ช่วยให้กระบวนการทำงานด้านโลจิสติกส์ง่ายขึ้น รถยกสามารถขนถ่ายสินค้าและวางแพ็คเกจบนชั้นวางโดยใช้เครือข่ายของอุปกรณ์ในการขนส่ง

      ทั้งนี้การมาถึงของเทคโนโลยีในปัจจุบัน จึงส่งผลให้ระบบการขนส่งก้าวหน้าและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น นอกจากจะสร้างผลประโยชน์ให้แก่บริษัทขนส่งแล้ว ผู้ใช้บริการก็สามารถมั่นใจได้ถึงคุณภาพของบริการและยังช่วยอำนวยความสะดวกในหลายๆ ด้าน อาทิ การติดตามสินค้าแบบเรียลไทม์ การทำธุรกรรมผ่านระบบออนไลน์และการขนส่งที่รวดเร็ว

      บริษัทขนส่งแนวหน้าอย่าง Bull Logistics ให้บริการชิปปิ้งและนำเข้าสินค้าจากจีนด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย ผู้นำเข้าสินค้าสามารถใช้บริการชิปปิ้งหรือนำเข้าได้ผ่านระบบออนไลน์ ตั้งแต่การลงทะเบียนตลอดจนการติดตามสินค้าตั้งแต่จีนถึงไทย พร้อมทั้งเดินพิธีศุลกากร ออกเอกสารครบถ้วนถูกต้องในชื่อของลูกค้า ช่วยให้การนำเข้าสินค้าเป็นเรื่องง่าย ถูกกฎหมายและประหยัด

  

Leave a Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *