นำเข้าสินค้าจากจีน Supply Chain หรือห่วงโซ่อุปทาน กลายเป็นอาวุธสำคัญที่ใช้ในการแข่งขันธุรกิจยุคดิจิทัล ซึ่งในปีนี้และปีถัดไป เราจะเห็นถึงพัฒนาการของธุรกิจต่างๆ ที่เปลี่ยนแปลงไปสู่ดิจิทัลเต็มรูปแบบ
IDC หรือ International Data Corporation ผู้ให้บริการและคำปรึกษาด้าน IT การสื่อสารและตลาดผู้บริโภค ได้เจาะลึกถึง แนวโน้มสำคัญที่จะทำให้ผู้ผลิตและผู้ค้าปลีก หันมาลงทุนทางด้านเทคโนโลยีหรือไอที เพื่อช่วยให้กระบวนการของห่วงโซ่อุปทานในธุรกิจ (ห่วงโซ่อุปทาน คือกระบวนต่างๆ ที่ทำให้เกิดสินค้าขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นการจัดซื้อ การผลิต การจัดเก็บ เทคโนโลยีสารสนเทศ การจัดจำหน่าย และการขนส่ง) เติบโตรุดหน้าภายในปีนี้ และปีต่อๆ ไป
โดยข้อมูลต่อไปนี้ Bull Logistics ผู้ให้บริการนำเข้าสินค้าจากจีนเรียงเรียงมาฝากเพื่อเป็นประโยชน์สำหรับผู้ประกอบการธุรกิจยุคนี้ ที่ควรก้าวตามให้ทันเทคโนโลยีสมัยใหม่
◾ ภายในสิ้นปี 2020 จำนวนครึ่งหนึ่งของผู้ผลิตรายใหญ่ในตลาด จะใช้ซัพพลายเออร์ในรูปแบบอัตโนมัติ และใช้ข้อมูลที่มีการวิเคราะห์มาแล้ว โดยคาดว่าจะทำให้มีผลผลิตเพิ่มขึ้น 15%
◾ ภายในสิ้นปี 2022 ครึ่งหนึ่งของการผลิตทั้งหมดใน Supply Chain จะลงทุนเรื่องของ AI คาดการณ์ว่าจะส่งผลให้มีการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตเพิ่มขึ้น 15%
◾ ภายในปี 2022 บริษัท จะใช้จ่ายงบประมาณในการใช้ Outsource ประมวลผลอัตโนมัติ สำหรับกระบวนการทางธุรกิจโลจิสติกส์ 35% โดยมุ่งเน้นที่การสั่งซื้อสินค้าคงคลังและติดตามการจัดส่ง ในปีเดียวกันนี้ จำนวนบริษัทที่นำเสนอคลังสินค้าที่มีความยืดหยุ่นจะเพิ่มขึ้นถึง 50% ซึ่งสามารถช่วยแก้ปัญหาความต้องการตามฤดูกาลและลดต้นทุนคงที่ลงกว่า 20%
◾ ภายในปี 2023 Micro Application Supply Chain จะกลายเป็น 1 ใน 3 ของการลงทุนเทคโนโลยีใหม่ทั้งหมดในการผลิตและการค้าปลีก เพื่อลดความเครียดในห่วงโซ่อุปทานลง 25% นอกจากนี้ อีก 65% ของกิจกรรมคลังสินค้าจะใช้หุ่นยนต์และการวิเคราะห์ข้อมูลสถานการณ์ เพื่อเปิดใช้งานการเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บ เพิ่มความจุมากกว่า 20% และลดเวลาในการประมวลผลคำสั่งงาน
◾ ภายในปี 2024 75% ของ บริษัที่มีกลุ่มเป้าหมายคือผู้บริโภค จะหันหน้าเข้าหาผู้บริโภคและพัฒนาความสามารถในการปรับขนาดตามห่วงโซ่อุปทาน ส่งผลให้ส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้น 2-3% โดยเฉลี่ย นอกจากนี้ เพื่อความโปร่งใสและมีประสิทธิภาพในการทำงานของศุลกากร 40% ของหน่วยงานศุลกากรจะเข้าร่วม blockchain และแพลตฟอร์มการค้าที่ขับเคลื่อนด้วย API เพิ่มขึ้น 50% ในการปฏิบัติตามข้อตกลงของการค้าข้ามพรมแดน
เทคโนโลยีและความสามารถแบบเฉพาะเจาะจงจะสามารถเพิ่มศักยภาพให้กับ Supply Chain ของคุณได้อย่างน่าประหลาดใจ อย่างไรก็ตาม สิ่งที่บริษัทผู้ผลิตและผู้ค้าปลีกควรคำนึงถึงงคือ อนาคตเป็นสิ่งไม่ในแน่นอน และธุรกิจอาจมีการหยุดชะงักขึ้นได้ ดังนั้น ต่อไปนี้คือเคล็ดลับในการดำเนินธุรกิจที่ไม่ประมาท
◾ลงทุนในเทคโนโลยีที่ทรงประสิทธิภาพ เพื่อแก้ปัญหาทางธุรกิจและให้ความสำคัญกับปัญหาทางธุรกิจที่มีอยู่หรือการคาดการณ์ปัญหาในอนาคต
◾ ทำงานกับพันธมิตรทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ เพื่อเร่งความสามารถด้านไอที ความเชี่ยวชาญของพันธมิตรจะช่วยให้คุณดำเนินการได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นในตลาดโลกปัจจุบัน
◾ตรวจสอบ Supply Chain เพื่อให้แน่ใจว่าพร้อมสำหรับการเพิ่มระดับผลิตภัณฑ์และกระบวนการที่เปิดใช้งานแบบ Digital
◾ประเมินวุฒิภาวะของคุณเองในการนำเอาเทคโนโลยีใหม่มาใช้และที่สำคัญกว่านั้นคือความสามารถในการแปลเทคโนโลยีเหล่านั้นไปสู่การแปลงระบบดิจิตอลด้วยเทคโนโลยีบางอย่าง เช่น IOT เป็นต้น