นำเข้าสินค้าจากจีน 5 สิ่งที่จะปฏิวัติอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ และขนส่ง

นำเข้าสินค้าจากจีน 5 สิ่งที่จะปฏิวัติอุตสาหกรรมโลจิสติกส์และขนส่งทั่วโลก - bulllogistics นำเข้าสินค้าจากจีน นำเข้าสินค้าจากจีน 5 สิ่งที่จะปฏิวัติอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ และขนส่ง 5                                                                                                                       768x402

นำเข้าสินค้าจากจีน อุตสาหกรรมโลจิสติกส์มีบทบาทสำคัญอันดับต้นๆ ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลก แต่สิ่งที่จะทำให้อุตสาหกรรมโลจิสติกส์ขับเคลื่อนต่อไปในอนาคตคือการเติบโตของตลาด E-commerce และเทคโนโลยีใหม่ๆ

ต่อไปนี้คือภาพรวมของแนวโน้มตลาดโลจิสติกส์และอุตสาหกรรมการขนส่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต และมีผลต่อการจัดการห่วงโซ่อุปทาน การจัดส่ง ฯลฯ

1. บล็อกเชนได้รับการสนับสนุนอย่างกว้างขวางมากขึ้น
เหตุใดอุตสาหกรรมโลจิสติกส์จึงเชื่อมโยงกับเทคโนโลยีบล็อกเชน ในอุตสาหกรรม ? คำตอบก็คือ เพราะบล็อกเชนช่วยให้เกิดการมองเห็นและการรักษาความปลอดภัยอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน อีกทั้งยังเป็นเทคโนโลยีที่สร้างเครือข่ายโดยตรง จากผู้ซื้อสินค้าไปยังผู้ให้บริการขนส่ง เพื่อหลีกเลี่ยงการใช้บริการกับตัวแทนขนส่งสินค้า (Freight Forwarder) และ 3PLs ที่เรียกเก็บเงินในอัตราที่สูงเกินไป

2. เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI : Artificial Intelligence)
การวิจัยของนักวิทยาศาสตร์ Richard Nisbett และ Lee Ross แสดงให้เห็นว่าปัญญาประดิษฐ์นั้น สามารถทำนายผลลัพธ์ และคาดการณ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมไปถึง

⋮⋮ การคาดการณ์ที่แม่นยำสำหรับความต้องการของลูกค้า หมายถึง ระยะเวลารอคอยสินค้าโอกาสสำหรับผู้จัดจำหน่ายและผู้ส่งสินค้าเพื่อการจัดส่งล่วงหน้า

⋮⋮ คาดการณ์ข้อมูลเชิงลึกล่วงหน้าได้เกี่ยวกับฟังก์ชันการทำงานของ Back Ofiice หรือระบบหลังบ้าน ที่ช่วยจัดการเนื้อหา ข่าวสาร และเงื่อนไขต่างๆ เช่น การค้นหาภาษา ที่อาจมีความเสี่ยงในการทำสัญญาทางธุรกิจ

⋮⋮ เพิ่มประสิทธิภาพเส้นทางการขนส่ง เพื่อทำให้การส่งมอบไมล์สุดท้าย (last-mile delivery) มีประสิทธิภาพมากขึ้น ช่วยให้บริษัทประหยัดค่าน้ำมัน

3. ความต้องการสินค้าแช่เเข็งเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วทั่วโลก

บริษัทชิปปิ้งกำลังเตรียมพร้อมที่จะตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก สำหรับผลิตภัณฑ์แช่เเข็ง รวมถึงอาหาร เครื่องดื่ม และเวชภัณฑ์ ตั้งแต่ปี 2020 เป็นต้นไป

เหตุผลสำหรับการเติบโตนี้ คือความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป ความต้องการอาหารต่างถูมิภาคต่างท้องถิ่นเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้โลกาภิวัตน์ได้ขยายการเข้าถึงและความหลากหลายของการจัดส่งสินค้าที่เน่าเสียง่าย แสดงให้เห็นว่าการเจริญเติบโตของตู้คอนเทนเนอร์เย็น มีอัตราอยู่ 10.2% ต่อปี (CAGR : Compound Annual Growth Rate) ไปจนถึงปี 2025 ซึ่งมีการเติบโตเร็วกว่าตลาดภาชนะบรรจุอื่นๆ บริษัทชิปปิ้งจึงจำเป็นต้องเพิ่มรถบรรทุกตู้เย็นและตู้คอนเทอนเนอร์ขนส่งสินค้า เพื่อตอบสนองต่อความท้าทายนี้ ในขณะที่ผู้ให้บริการรายอื่นจะต้องประเมินความพร้อมของตนเองใหม่เนื่องจากลูกค้าต้องการมากขึ้น

4. ระบบอัตโนมัติช่วยให้ศูนย์กระจายทำงานได้อย่างราบรื่นมากขึ้น
มีการคาดการ์ณกันว่า ในปี 2024 เทคโนโลยีคลังสินค้าอัตโนมัติจะมีอัตราเพิ่มขึ้นถึง 12.6% ต่อปี หนึ่งในเหตุผลสำคัญคือ การหาบุคลากรเฉพาะทางด้านนี้มีจำนวนน้อย และมีการพัฒนาระบบอัตโนมัติซึ่งมีสมรรถภาพขั้นสูง อาทิ

⋮⋮ เครื่องตรวจสอบชิ้นงาน (Machine Vision) หรือที่เรียกกันว่าระบบ วิชั่น (Vision System) ถูกออกแบบขึ้นเพื่อใช้ในการตรวจสอบคุณภาพการผลิต ช่วยลดอัตราความผิดพลาดในการทำงาน ลดโอกาสในการจัดส่งสินค้าที่ผิดพลาด สินค้าไม่สมบูรณ์ หรือสินค้าไม่ถูกต้องให้กับลูกค้า

⋮⋮ ยานพาหนะที่ใช้หุ่นยนต์นําทางอัตโนมัติ (AGVs : Automatic Guided Vehicle) เป็นการจัดเตรียมสินค้าโดยไม่มีการใช้แรงงานมนุษย์ ทำให้ลดความเสียหายในคลังสินค้

⋮⋮ เมื่อเปรียบเทียบกับพนักงานคลังสินค้า คำสั่งของหุ่นยนต์สามารถค้นหากล่อง และระบุผลิตภัณฑ์ได้เร็วขึ้น และมีความแม่นยำมากขึ้น

5. โครงการสีเขียวถูกนำมาใช้ในห่วงโซ่อุปทาน
ปัจจุบัน สินค้าที่ผลิตภายใต้กระบวนการรักษ์โลก คิดเป็นครึ่งหนึ่งของการเติบโตของตลาดสินค้าบรรจุภัณฑ์ ดังนั้นห่วงโซ่อุปทานของโลก จึงกลายเป็นห่วงโซ่อุปทานแบบหมุนเวียน หรือมีการนำกลับมาใช้ซ้ำ เช่น ปรับปรุงอายุการใช้งานของผลิตภัณฑ์และความสามารถในการกู้คืน ซ่อมแซม และจำหน่าย ถึงแม้ว่าจะดูเป็นขั้นตอนที่ยุ่งยาก แต่หากมองในระยะยาวแล้ว ผลิตภัณฑ์ที่นำกลับมาใช้ใหม่แล้วใช้งานได้ยาวนานขึ้น จะช่วยประหยัดเงินและสิ่งแวดล้อมของเราได้

ที่มาข้อมูล : https://www.freightwaves.com/

Leave a Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *